วันจันทร์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2555

แคลเซียมคาร์บอเนต อุตสาหกรรมสี

การใช้แคลเซียมคาร์บอเนตในอุตสาหกรรมสี

ในอุตสาหกรรมสีจะใช้แคลเซียมคาร์บอเนตเป็นตัวเติม (Filler) ที่สำคัญโดยมีคุณสมบัติทำให้สีมีความต่อเนื่องและเป็นเนื้อเดียวกัน นอกจากนี้แคลเซียมคาร์บอเนตยังใช้แทนไททาเนียมไดออกไซด์  ซึ่งมีราคาสูงกว่า เพื่อทำให้สีความเงามากขึ้น  โดยเฉพาะสีที่ใช้ในงานก่อสร้างอาคาร สีที่ใช้ในงานตกแต่ง  ส่วนสีที่ใช้ในงานจราจรบนถนนแคลเซียมคาร์บอเนตเป็นทั้งตัวเติมและตัวเพิ่มปริมาณเนื้อสี
การใช้ประโยชน์แคลเซียมคาร์บอเนตในอุตสาหกรรมสี 

คุณลักษณะของแร่แคลไซต์ซึ่งใช้ทำสี กำหนดตามขนาดของเม็ดแร่ แบ่งออกเป็น 4 เกรด 

เกรด 1 ใช้ทำสีมีขนาดเม็ดแร่ละเอียด (Fine paint grade) 
- ขนาดของเม็ดแร่ 1.5 – 2.0 ไมครอน
       - วัตถุหยาบค้างบนตะแกรงขนาด 325 เมช (45ไมครอน) สูงสุด 0.05 เปอร์เซ็นต์
       - เส้นผ่าศูนย์กลางผิวหน้าของเม็ดแร่ (Specific surface diameter) สูงสุด 2.5 ไมครอน 

เกรด 2 ใช้ทำสีมีขนาดเม็ดแร่หยาบ (Course paint grade) 
- ขนาดของเม็ดแร่ 4 – 5 ไมครอน
             - วัตถุหยาบค้างบนตะแกรงขนาด 325 เมช (45 ไมครอน)สูงสุด 0.05 เปอร์เซ็นต์
             - เส้นผ่าศูนย์กลางผิวหน้าของเม็ดแร่ (SSD) สูงสุด 6 ไมครอน 

เกรด 3 ใช้เป็นวัตถุเหลวสำหรับอุดเนื้อไม้ก่อนลงสี (Filler grade) 
- ขนาดของเม็ดแร่ 10 – 45 ไมครอน
             - วัตถุหยาบค้างบนตะแกรงขนาด 325 เมช (45 ไมครอน) สูงสุด 25 เปอร์เซ็นต์
             - เส้นผ่าศูนย์กลางผิวหน้าของเม็ดแร่ (SSD) สูงสุด 9 ไมครอน 

เกรด 4 เกรดผงสำหรับยากันรั่ว (Putty powder grade) 
- ขนาดของเม็ดแร่มีความละเอียดน้อย
             - วัตถุหยาบค้างบนตะแกรงขนาด 200 เมช (75 ไมครอน) สูงสุด 30 เปอร์เซ็นต์
             - เส้นผ่าศูนย์กลางผิวหน้าของเม็ดแร่ (SSD) สูงสุด 12 ไมครอน 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น